หมอดูแม่นๆ ป้ารส 1900 1900 33 รหัส 128 รับสอนไพ่ยิปซี เลขเจ็ดตัวเก้าฐาน โทร 081-545-6615

ฤกษ์มงคล

ฤกษ์ คือ คราวหรือเวลาซึ่งเป็นชัยมงคล เพื่อประกอบกิจการต่างๆ เพื่อความสุข ความวัฒนาถาวร ความสำเร็จผล ความเจริญให้ได้ตามความต้องการนั้นๆ
ยาม มีความหมายดังนี้
1. ยาม เป็นชื่อส่วนแห่งวัน ยามหนึ่งมี 3 ชั่วโมง รวมวันหนึ่งมี 8 ยาม
          - ในบาลีแบ่งกลางคืนเป็น 3 ยาม ยามหนึ่งมี 4 ชั่วโมง เรียกว่า ปฐมยาม มัชฌิมยาม และปัจฉิมยาม คนเฝ้าสถานที่หรือระวังเหตุการณ์ ตามกำหนดเวลา คราว เวลา เช่น ยามสุข ยามทุกข์
          - ยามกาลิก (ยามะ) ของที่ให้บริโภคได้ชั่วคราวเพียงวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ได้แก่ น้ำอัฐบาล(ดูกาลิก)
2. (ยามะ) ชื่อสวรรค์ชั้นที่ 3 เทวดาในชั้นนี้เรียกว่า ยามเทวบุตร

ฤกษ์งามยามดี ความหมายคือ เวลา หรือความแห่งช่วงวันหรือคืนอันเหมาะสมในการประกอบ (ทำการ) งานมงคลทั้งปวง เพื่อให้เกิดลาภผล ความดีความสำเร็จเป็นมิ่งมงคลแก่เจ้าของงาน
ฤกษ์ คือ นักษัตร เป็นหมู่ดาวประจำในจักรราศีหรือเรียกว่า "เรือนของจันทร์" ขอบเขตของนักษัตรอาศัย กำหนดเวลาจริงที่จันทร์โคจร  นับเริ่มต้นจากจุดแรกของจักรราศีที่ 0 องศาที่ราศีเมษ ถึงจุดสุดท้าย 30 องศาที่ราศีมีน รวม 360 องศา ครบรอบประมาณ 28 วัน นักษัตรกลุ่มใดมีกำลังมากในการส่งรังสีที่เป็นพลังงานแผ่เข้ามาในบรรยากาศของโลก เมื่อจันทร์โคจรผ่านและสัมพันธ์กับรังสีนี้ก็มีอิทธิพลพิเศษส่งผลสะท้อนลงสู่ผิวโลก อิทธิพลพิเศษเช่นนี้เรียกว่า "ฤกษ์บน" การหาฤกษ์บนทำการมงคลใดๆ พึงหลีกเหลี่ยงฤกษ์บนที่ตรงกับ อุบาทว์ โลกาวินาศ โดยหาฤกษ์บนให้ตรงกับ ธงชัย อธิบดี งานนั้นจึงจะเป็นมงคล

ราศี คือ จักราศีและโชคชะตาราศี
จักรราศี (Zodiac) คืออาณาเขตในท้องฟ้าที่มีดาวพระเคราะห์โคจรอยู่ แบ่งออกเป็น 12 ส่วน ส่วนละ 30 องศา ส่วนหนึ่งเรียกว่าหนึ่งราศี (Sign) ภายในราศีต่างๆ มีดาวประจำเป็นหมู่ นักดาราศาสตร์ได้วาดภาพรวมกันเข้าไว้  รูปภาพรวมเรียกว่านักษัตรประจำราศี ชื่อราศี และรูปดาวนักษัตรประจำราศีต่างๆ มีดังนี้

ฤกษ์บน  เป็นฤกษ์ใหญ่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 9 ฤกษ์ ดังนี้
๑๐ ๑๙ ทลิทโทฤกษ์  ใช้ในการขอสิ่งต่างๆได้ดี จะขออะไรใครก็ได้ง่าย จะได้รับความเมตตาสงสารยินยอม ใช้ในการขอความช่วยเหลือ ร่วมมือจากผู้อื่น
 ขอความเป็นธรรม ขอกู้ยืม ขอลูกสาว  ทวงหนี้ ขอสิ่งต่างๆ เปิดร้านขายของชำ ของเก่าชำรุด สมัครงาน งานที่ริเริ่มใหม่จะได้รับความเมตตากรุณา
๑.อัศวินี (13-27 เมษายน)  ดาวม้า
พ่อแม่จะให้ทรัพย์ไว้เท่าใดก็มิอาจรักาษาทรัพย์ไว้ได้
๑๐.มาฆะ (16-30 สิงหาคม)  ดาวแข้งม้าหรืองอนไถ
จะทุกข์บ้าง สุขบ้าง ท้าวพระยาจะให้คุณ ญาติประเสริฐอุดม แต่ทว่าครองทรัพย์มิได้ แม้ขวนขวายมิอาจมีเสีย
๑๙.มูละ (15-28 ธันวาคม)  ดาวช้างน้อย
จะเป็นคนไร้ทรัพย์ จะตายด้วยสัตว์ร้าย

๑๑ ๒๐ มหัทธโนฤกษ์ มุ่งให้เกิดความมั่นคงถาวรทางทรัพย์สิน เงินทอง เหมาะสำหรับงานของชนชั้นผู้มีอันจะกิน เช่น พ่อค้า นายห้าง นายธนาคาร  ธุรกิจ
การเงิน การค้าอุตสาหรรม เปิดห้างร้าน สถาบันการเงินทุกชนิดและใช้ในงานมงคลต่างๆได้ เช่นแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ก่อสร้างอาคารสถานที่
 ลาสิขา สะเดาะเคราะห์  งานมงคลทั้งปวงดีนัก
๒.ภรณี (27 เมษายน-11 พฤษภาคม)  ดาวแม่ไก่หรือก้อนเส้า
แม้จะเกิดในตระกูลยากจนเข็ญใจ ก็จะได้ซึ่งสุขสมบัติอันเป็นมงคลยิ่งนัก
๑๑.บุรพผลคุนี (30 สิงหาคม-13 กันยายน)  ดาวเพดาลหน้า
ผู้เกิดในฤกษ์นี้จะดีมีสำเภานาวา ประรถนาสิ่งใดย่อมได้ ศัตรูจะบูชา มักมีโรคร้าย
๒๐.บุรพสาฬหะ (28 ธันวาคม-11 มกราคม)  ดาวแรดตัวผู้หรือช้างพลาย
มักจะทำมาค้าขายมีเงินทองมากได้ลาภ ได้สุขเพราะผู้หญิง

๑๒ ๒๑ โจโรฤกษ์ การใช้อำนาจเข้าถือกรรมสิทธิ์ของผู้อื่นโดยพละการ ให้คนอื่นเกรงกลัวด้วยวิธีบีบบังคับ ข่มขวัญ  ลักษณะงานใช้ปล้นค่าย เข้าตีทัพ ทำการ
จู่โจมฉับพลัน ทำการปราบปราม เหมาะสำหรับงานแข่งขันช่วงชิงแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้น  งานของบุคคลในเครื่องแบบ และผู้ชอบ ช่วงชิงสิทธิของผู้อื่น
๓.กฤติกา (11-25 พฤษภาคม)  ดาวลูกไก่
มักจะเป็นโจร
๑๒.อุตรผลคุนี (13-26 กันยายน)  ดาวเพดาลหลัง
มักจะเป็นโจรต้องขื่อคา
๒๑.อุตตราสาฬหะ (11-24 มกราคม)  ดาวแรดตัวเมียหรือช้างพัง
มักจะเป็นโจร มีภัยด้วยอาวุธ มีโรคร้าย และโทษ 3 ประการ

๑๓ ๒๒ ภูมิปาโลฤกษ์ ทำการมงคลเกี่ยวกับที่ดิน อาคารสถานที่ การเกษตร เพื่อความมั่นคง ถาวรเป็นหลัก เช่นสถาปนาถาวรวัตถุ  เช่าซื้อหรือจัดสรรที่ดิน การ
ก่อสร้างอาคาร ปลูกบ้าน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิขา เปิดอาคาร ร้านค้าเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง  เครื่องมือการเกษตร สารพัดงานมงคล
๔.โรหิณี (25 พฤษภาคม-8 มิถุนายน)  ดาวจมูกม้าหรือคางหมู
ถ้าชายจะได้เป็นมนตรี ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นนางพญา
๑๓.หัฏฐะ (26 กันยายน-10 ตุลาคม)  ดาวศอกคู่หรือกระออมน้ำ
แม้จะเกิดในตระกูลถ่อยก็จะเป็นขุนนางผู้ใหญ๋
๒๒.ศรวณะ (24 มกราคม-6 กุมภาพันธ์)  ดาวคนจำศีลหรือคนหาบหมู
จะเป็นมนตรีใหญ่ จะได้โคกระบือช้างม้า ลูกเมียจะได้เป็นที่พึ่ง

๑๔ ๒๓ เทศาตรีฤกษ์ ใช้สำหรับงานติดต่อการค้าระหว่างถิ่น เกี่ยวกับความสนุกสนาน เช่น เปิดโรงมหรสพ บาร์ สถานเริงรมย์ ซ่องโสเภณี โรงแรม ธุรกิจ
บันเทิง ตลาด และศูนย์การค้า ทำการค้ากับต่างประเทศประกอบอาชีพนกสถานที่ หรืออาชีพเร่รอน ไม่เป็นที่เป็นทาง ต้องย้ายที่อยู่เสมอ
๕.มฤคศิร (8-21 มิถุนายน)  ดาวศีรษะเนื้อ
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้จะทุกข์ๆ สุขๆ มีเวรมีภัย ศัตรูจะทำโทษ ไปต่างประเทศจึงจะเป็นเจ้าแห่งสมบัติ
๑๔.จิตรา (10-23 ตุลาคม)  ดาวหมูหรือจระเข้
จะได้เป็นอำมาตย์ เดินทางไกลจะได้ลาภ
๒๓.ธนิษฐา (6-19 กุมภาพันธ์)  ดาวช้างใหญ่หรือกา
ไปต่างประเทศจะได้เป็นราชทูต ถ้าอยู่ไใต้ให้ไปอยู่ทางเหนือ ถ้าอยู่ทางเหนือให้ไปอยู่ใต้จึงจะดี จะได้ลาภอันใหญ่

๖ ๑๕ ๒๔ เทวีฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ สมความปรารถนา ทำกิจกรรมที่ต้องการชื่อเสียง ความมีเสน่ห์ในกายตน งานเกี่ยวกับคนต่างเพศ สตรีอุปถัมภ์ งานมีเกียรติ ส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอ การมงคลสมรส งานเชิงศิลปะตบแต่งชั้นสูง เปิดร้านขายอัญมณี  กิจการาของสตรีทุกชนิด ติดต่อเพศสัมพันธ์ความรัก  ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขา สารพัดงานมงคลทั่วไป
๖.อารทรา (21 มิถุนายน-5 กรกฏาคม)  ดาวฉัตร
ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้จะมีความสุข มีโชคลาภ ถ้าเป็นชายท่านจะยกลูกสาวให้ ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นแม่เรือนดี มีทรัพย์มาก
๑๕.สวาตี (23 ตุลาคม-6 พฤศจิกายน)  ดาวช้างพังหรือกระออมน้ำ
ถ้าเกิดเป็นชายท่านจะให้ลูกสาว ถ้าเป็นหญิงจะเป็นเจ้าของเงินทอง ศฤงคาร ข้าทาส
๒๔.ศตภิษัช (19 กุมภาพันธ์-4 มีนาคม)  ดาวงูเลื้อยหรือมังกร
ท่านจะให้ลูกสาว จะได้ดีเพราะผู้หญิง มีโคกระบือช้างม้า จะได้แผ่นดิน ประกอบด้วยโชคลาภอันเที่ยงแท้

๑๖ ๒๕ เพชฌฆาตฤกษ์ เหมาะสำหรับฟันฝ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจสำคัญปราบปรามอันธพาลหรือข้าศึกศัตรู ตัดสินคดีความ ทำพิธีทางไสยศาสาตร์ ปลุกเสก ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคล ทางคงกระพันชาตรี การกระทำที่ใช้ความเด็ดขาดทุกกรณี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยาก การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธถัณฑ์ ฤกษ์นี้แรงกว่า โจโรฤกษ์
๗.ปุนัพสุ (5-19 กรกฎาคม)  ดาวสำเภาหรือเรือชัย
จะมีน้ำใจกล้าดังเพชฌฆาต จะเป็นทหาร ท้าวพระยา
๑๖.วิสาขะ (6-19 พฤศจิกายน)  ดาวกระบือหรือแขนนาง
จะเป็นทหารพระยา มิฉะนั้นจะเป็นนายเพชฌฆาต จะเป็นชาวประมง พรานขัดแร้ว ถ้าเป็นหญิงจะเป็นแพศ
๒๕.บุรพภัทรบท (4-17 มีนาคม)  ดาวราชสีห์ตัวผู้
จะเป็นเพชฌฆาตเป็นพรานเนื้อพรานนก ชาวประมง ประกอบด้วยทรัพย์ ธัญญาหาร มีศักดิ์เป็นพระยา มีความสุขเป็นเที่ยงแท้

๑๗ ๒๖ ราชาฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจของผู้เป็นใหญ่ ตั้งแต่ผู้นำกิจการขึ้นไปถึงพระมหากษัตริย์ เหมาะสำหรับงานราชพิธี รัฐพิธี ราชการงานเมือง สร้างที่สำหรับพระราชาประทับ เหมาะแก่งานบ้านที่ต้องชักจูงให้ผู้อื่นเดินตามปฏิบัติตาม การปกครอง บังคับบัญชาเข้ารับตำแหน่งราชการ ตั้งรัฐบาล ตั้งเสาหลักเมือง ทำงานชิ้นสำคัญ ที่ต้องแสดงฝีมือ และแสวงหาขื่อเสีย ควบคุมกิจการ เข้าหาผใหญ่ งานมงคลสมรสที่มีเกียรติหรูหรา ลาสิกขา ขึ้นบ้านใหม่ (สามัญชนหาฤกษ์อื่นได้ควรเว้น เว้นแต่หาไม้ได้ก็อนุโลมใช้ได้ เพื่อดวงชะตาและความเหมาะสม)
๘.ปุษยะ (19 กรกฎาคม-2 สิงหาคม)  ดาวปุยฝ้าย
จะเป็นคนกล้าหาญมีชัยชนะ ท้าวพระยาบูชา มีทรัพย์ มีโชค ลูกไพร่จะได้เป็นพระยา
๑๗.อนุราธ (19 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม)  ดาวหมีหรือหน้าไม้
มีทรัพย์สมบัติ ผู้หญิงจะบูชาประพฤติในการช่างจะให้คุณ ลูกไพร่จะได้กินเมือง
๒๖.อุตตรภัทรบท (17-31 มีนาคม)  ดาวราชสีห์ตัวเมีย
ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นนางพญา ลูกไพร่จะได้เป็นพระยา มีทรัพย์มาก

๑๘ ๒๗ สมโณฤกษ์ ใช้ได้เฉพาะกิจการเกี่ยวกับความสงบและสุจริต เป็นฤกษ์ทำพิธีของศาสนา พระสงฆ์ เช่น อุปสมบท หล่อพระประธาน พระบูชา เข้ารับการศึกษา การกระทำทุกอย่าง เพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข สงเคราะห์ในฤกษ์นี้ได้ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญอายุ แปลว่า ผู้สงบ นักบวช นักสอนศาสนา
๙.อาศเลษา (2-16 สิงหาคม)  ดาวแมวหรือพร้อม
ถ้าเป็นพฤหัสบดีจะเป็นเสมียน นัการ หมอโหรา มีทุกข์ด้วยท้าวพระยา จะฉิบหายเพราะโทษประทุษร้ายเสนาบดี
๑๘.เชษฐา (2-15 ธันวาคม)  ดาวแพะหรือช้างใหญ่
จะต้องภัย มีศัตรู มีทุกข์ ถ้าพระเคราหะ์นั้นเป็นมหาอุจ จะได้ดีมีทรัพย์
๒๗.เรวดี (31 มีนาคม-13 เมษายน)  ดาวหญิงมีครรภ์หรือปลาตะเพียน
ถ้าเป็นชีจะเป็นสังฆปรินายก รู้จบพระไตรปิฏก หญิงจะได้เป็นแม่พระสงฆ์ มักเกิดทุกข์ยาก

วัน ที่เป็นมงคลหรืออัปมงคลที่ส่งผลต่อเจ้าของดวงชะตาอย่างไร
วัน    คือ วันทั้งเจ็ดใน 1 สัปดาห์ ตั้งชื่อตามชื่อของดาวเคราะห์ให้สอดคล้องต้องกันตามวิธีดาราศาสตร์
วันอาทิตย์   หมายถึง ชื่อเสียง เกียรติยศ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน
วันจันทร์      หมายถึง กิจการของสตรี คู่ครอง คนรัก ครอบครัว ความสุข
วันอังคาร     หมายถึง กิจการของเพศชาย ความเข้มแข็ง การต่อสู้ เดินทางไกล
วันพุธ          หมายถึง การเจรจา ติดต่อ ข่าวสาร
วันพฤหัสบดี หมายถึง ผู้ใหญ่ ไหว้ครู เล่าเรียนวิชาการ พระภูมิเจ้าที่ สถานที่อยู่
วันศุกร์        หมายถึง การเงิน การค้าขาย เปิดห้างร้าน ธนาคาร ความงาม ความรัก ศิลปะ ธุรกิจบันเทิง
วันเสาร์       หมายถึง การทำพิธีไสยศาสตร์ คาถาอาคม แก้อาถรรพณ์ สร้างเครื่องรางของขลัง

ถ้าตกวันธงชัย อธิบดี นับว่าประเสริฐให้คุณเจริญ
ถ้าตกวันอุบาทว์ โลกาวินาศ นับว่าให้โทษ มีอุปสรรค จะเกิดอุบัติเหตุ ความหายนะ สูญเสีย วันใดได้ชื่อตกดาวเคราะห์ใด ดาวเคราะห์นั้นเป็นดาวเด่นในวันนั้นด้วย
 - วันสมพงศ์  คือวันที่มีส่วนเกื้อหนุนให้คนคนนั้นพบกับความสำเร็จสมความปรารถนาจึงเหมาะกับการประกอบงานมงคล เช่นขึ้นบ้านใหม่ การแต่งงานและเปิดร้านใหม่
 - วันคู่มิตร หรือที่เรียกว่าวันถูกโฉลก วันดังกล่าวจับคู่เป็นมิตรกับคนคนนั้น จึงมีผู้สนับสนุนเกื้อกูลให้ทำการสำเร็จเหมาะสำหรับเริ่มงานใหม่ หรือสานงานเก่าให้ลุล่วง
 - วันคู่ศัตรูกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย จึงไม่ควรให้ประกอบงานมงคล ไม่เจรจาทำธุรกิจ รวมทั้งไม่เล่นการพนันขันต่อ
 - วันให้โทษ วันที่ตรงกับ อุบาทว์ โลกาวินาศ จะเกิดการเสียดสี กระทบกระทั่ง ข่มเจ้าของเรือนชะตา ทำอะไรก็สะดุดติดขัด ขัดลาภ จึงควรงดเว้นการดำเนินงานต่างๆ

กาลโยค คือ กาลอันพึงมีตามกำหนด อันประกอบด้วยผล คือ คราวดีคราวร้าย ที่สืบเนื่องกันมาตามลำดับไป จาก วัน ยาม ราศี ดิถี ฤกษ์ คำนวณ ลงไว้ในปฎิทินโหรประจำปี มีความหมายดังนี้
ธงชัย  วันที่สำเร็จในผลดี หรือความดีทั้งหลาย ชัยชนะ มิ่งขวัญของหมู่คณะ เวลา ประกอบด้วยโชค ชัยชนะ หมายถึงชัยโชค การเข้าไปตั้งมั่นอยู่ในสถานที่ที่ศัตรูจะตั้งอยู่มิได้ การพยุหยาตราใหญ่เดินทางเคลื่อนย้าย เช่น ย้ายบ้านใหม่ ย้ายที่ทำการใหม่
อธิบดี วันที่เป็นใหญ่ มีอำนาจในการปกครองควบคุมดูแล เวลา ประกอบด้วยโชค ความเป็นใหญ่ การเข้าไปตั้งอยู่ในที่เป็นอิสรภาพ ดำเนินไปในทางเจริญทำพิธีมงคล อยู่กับที่ เช่น แต่งงาน สถานที่วางศิลาฤกษ์ ยกเสาเอก ยกศาลพระภูมิ ปลูกเรือน
อุบาทว์  วันที่ตกอยู่ในบ่่วงกรรม มีอุปสรรค ทำการค้าไม่ขึ้น โชคร้าย เวลา  ประกอบด้วยอุบัติเหตุุ เคราะห์ร้าย และสิ่งที่ไม่เป็นมงคลต่อรายบุคคลที่จะทำการมงคล
โลกาวินาศ วันที่ วุ่นวาย ยุ่งยาก ระส่ำระสาย ระเหเร่รอน ความหายนะ สูญเสีย เวลา เข้าไปสู่อันตราย หรืออุปัทวันตราย  ไม่เป็นมงคลต่อชุมชนหมู่คณะเป็นส่วนรวม ถ้าไม่ตรงกับกาลโยคดังกล่าวถือว่าเป็นกลาง


ยาม
ยาม เป็นการกำหนดเวลาแบ่งส่วนของวันโดยคิดแบ่งเป็นยามละ 1 ชั่วโมง 30 นาที หมายความว่า ตั้งแต่เวลาย่ำรุ่งถึงย่ำค่ำ 12 ชั่วโมง มี 8 ยาม เป็นตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนตั้งแต่ย่ำค่ำถึงย่ำรุ่ง 12 ชั่วโมง ก็แบ่งออกเป็น 8 ยาม อีกเหมือนกัน และใช้ตัวเลขเป็นเครื่องหมายของยาม ดังกำหนดเวลาไว้ดังนี้
ยามกลางวัน

ยามกลางคืน

ที่แบ่งเช่นนี้เพื่อความสะดวกแก่การหากาลโยค (การกำหนดวัน ยาม ราศี ดิถี ฤกษ์ ของแต่ละปีเป็น ธงชัย อธิบดี อุบาทว์ โลกาวินาศ